การเก็บข้อมูลของลูกค้า เราสามารถเก็บได้อย่างหลากหลาย เพราะทุกข้อมูลคือขุมทรัพย์ชั้นดีที่เราจะสามารถนำมาต่อยอดเพิ่มการขายหรือทำการตลาดด้านอื่น ๆ ได้ ดังนั้นในบทความนี้ เราขอแนะนำ 4 ประเภทของข้อมูลลูกค้าที่สามารถเก็บได้ด้วยระบบ CDP เป็นการเริ่มต้น หากคุณต้องการเลือกเก็บข้อมูลลูกค้าบางอย่างก่อน

 
 

## **แนะนำ 4 ประเภทของข้อมูลลูกค้าด้วยระบบ CDP**

 

### **1.ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ (Demographic Data)**

การเก็บข้อมูลเข้าระบบ CDP ประเภทนี้ เป็นพื้นฐานของลูกค้าที่สามารถนำมาปรับใช้ได้อย่างหลากหลาย เช่น อายุ เพศ การศึกษา รายได้ และสถานที่ตั้ง เพื่อทำให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้น 

 

การเก็บข้อมูลด้วยระบบ CDP ประเภทนี้ ช่วยให้แบรนด์แบ่งกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพใครคือลูกค้าของเรา และสามารถช่วยในการเลือกช่องทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุด เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขาย เช่น สินค้าสำหรับเด็กก็จะเจาะกลุ่มพ่อแม่ สินค้าแฟชั่นก็อาจเน้นไปที่คนรุ่นใหม่ที่สนใจสไตล์และมีรายได้ระดับหนึ่ง

 
 

### **2.ข้อมูลการกระทำ (Behavioral Data)**
ระบบ CDP สามารถข้อมูลการกระทำของลูกค้าได้ละเอียดกว่าการเก็บด้วยระบบ CRM ข้อมูลนี้รวมถึงการกระทำของลูกค้าบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์ การคลิกที่ลิงก์ การดูผลิตภัณฑ์ การซื้อสินค้า พฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชัน และการตอบสนองต่อแคมเปญ

 

ช่วยให้แบรนด์เข้าใจการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) มากขึ้น ว่าลูกค้าสนใจสินค้าอะไร เข้าชมผลิตภัณฑ์ประเภทไหนบ่อย และติดตามว่าแคมเปญหรือโปรโมชั่นใดที่ทำให้เกิดการซื้อสินค้ามากที่สุด ทำให้สามารถออกแบบประสบการณ์ที่ตรงใจและนำไปสู่การซื้อได้ง่ายขึ้น

 

ข้อมูลที่เก็บด้วยระบบ CDP ประเภทนี้เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจพฤติกรรมและรูปแบบการซื้อของลูกค้า เพื่อช่วยในการปรับกลยุทธ์และเพิ่มยอดขายได้

 
 

### **3.ข้อมูลเชิงจิตวิทยา (Psychographic Data)**
เป็นการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคลิกภาพ ความสนใจ ความชอบ และไลฟ์สไตล์ ช่วยให้แบรนด์เข้าใจถึงแรงจูงใจและทัศนคติของลูกค้ามากขึ้น เช่น ชอบท่องเที่ยว ชอบความสวยความงาม ชอบกิจกรรมพจญภัย หรือชื่นชอบผลงานศิลปะ สิ่งเหล่านี้ ช่วยให้แบรนด์สามารถทำการตลาดที่ตรงใจและสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า เช่น การส่งโปรโมชันเกี่ยวกับรองเท้าสำหรับนักปืนเขา เพื่อกลุ่มลูกค้าที่ชอบปืนเขาเป็นต้น

 

การเก็บข้อมูลด้วย CDP เหล่านี้ช่วยในการปรับปรุงการตลาดให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น และช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ซึ่งเราสามารถดึงข้อมูลความชอบของลูกค้าออกมาวิเคราะห์เป็นรายบุคคลได้เลยหากใช้งาน CDP

 
 

### **4.ข้อมูลการทำธุรกรรม (Transactional Data)**
อีกเรื่องสำคัญคือการเก็บข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น รายการซื้อ ราคา วันที่ และช่องทางการซื้อ ช่วยให้เห็นแนวโน้มการใช้จ่ายและความถี่ในการซื้อ และชนิดของผลิตภัณฑ์ การเก็บข้อมูลประเภทนี้ ช่วยให้เห็นแนวโน้มการใช้จ่ายของลูกค้าและบอกได้ว่าลูกค้าคนใดมีโอกาสซื้อสินค้าซ้ำหรือมีโอกาสซื้อสินค้าอื่นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังใช้ในการวิเคราะห์ความถี่และปริมาณการซื้อของลูกค้า

 
และการเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมช่วยให้แบรนด์สามารถระบุลูกค้าที่มีมูลค่าสูงและปรับปรุงการขายได้ เช่น การสร้างโปรโมชันสำหรับลูกค้าประจำหรือการจัดแคมเปญเพิ่มยอดขายสำหรับลูกค้าที่มีการซื้อสินค้าบ่อย ๆ

 
 
 

## **วิธีที่ CDP ใช้ในการเก็บข้อมูลลูกค้า**
ระบบ CDP (Customer Data Platform) จะรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย อีเมล และ POS โดยเราสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเก็บข้อมูลได้ดังนี้

 

### **1.การติดตามผ่าน Cookies และ Pixels**
ใช้ในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เช่น การตั้งค่า, ข้อมูลการเข้าชม, หรือประวัติการคลิก เมื่อผู้ใช้กลับมาเข้าเว็บอีกครั้ง เว็บไซต์จะสามารถดึงข้อมูลจาก Cookies มาใช้เพื่อแสดงผลตามการใช้งานก่อนหน้าได้ 
 
เช่น เดียวกันกับ Pixels ที่ฝังอยู่ในโค้ดของหน้าเว็บหรืออีเมล เมื่อผู้ใช้งานเปิดหน้าเว็บหรืออีเมลนั้น Pixels จะส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการโฆษณา อย่างเช่น Facebook หรือ Google 

 
 

### **2.Upload Data**
โดยการอัปโหลดข้อมูลของลูกค้าที่กระทำต่อช่องทางต่าง ๆ มารวมไว้บนแพลตฟอร์ม CDP การรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อสร้างโปรไฟล์ลูกค้าเดียว ที่สมบูรณ์ (Data Integration) ทำให้การติดตามกระบวนการทำงานและประสิทธิภาพของธุรกิจมีความชัดเจนยิ่งขึ้น

 
 

### **3.API Integration**
การเชื่อมต่อ API ช่วยให้ CDP สามารถดึงข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ เข้ามารวมไว้ในระบบ โดยที่เราไม่ต้องเป็นคนอัปโหลดข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้ง่ายต่อการได้รับข้อมูล และได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน แม่นยำ

 
 

### **4.การประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์**
ข้อมูลจะถูกอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ข้อมูลมีความทันสมัย ทำให้รู้ข้อมูลได้ทันที เพื่อให้เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ทันที ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการรอเวลาอัปเดต

 
 
 

และทั้งหมดนี้คุณสามารถเก็บข้อมูลทั้ง 4 ข้อได้หมดหากใช้งานระบบ CDP (Customer Data Platform) ของ Unisight เพื่อให้คุณรู้จักและรู้ใจลูกค้าได้อย่างแท้จริง 

 
 

สามารถติดต่อของ Demo ได้ที่ [คลิก](https://tally.so/r/mO00ek)

4-types-of-customer-data-that-should-be-stored-in-the-cdp-system

blog-img-10-08.jpg

ขอแนะนำ 4 ประเภทของข้อมูลลูกค้าที่สามารถเก็บได้ด้วยระบบ CDP เป็นการเริ่มต้น หากคุณต้องการเลือกเก็บข้อมูลลูกค้าบางอย่างก่อน

large_blog-img-10-08.jpg

medium_blog-img-10-08.jpg

4 ประเภทข้อมูลลูกค้าที่น่าเก็บในระบบ CDP (Customrt Data Platfortm)

บทความที่เกี่ยวข้อง

Customer data platform ใช้กับธุรกิจ SME ได้อย่างไรบ้าง

5 หลักการเลือกใช้ Customer Data Platform (CDP)

เปิดเช็กลิสธุรกิจที่เหมาะกับการใช้งาน CDP

Customer data platform ใช้กับธุรกิจ SME ได้อย่างไรบ้าง

5 หลักการเลือกใช้ Customer Data Platform (CDP)

เปิดเช็กลิสธุรกิจที่เหมาะกับการใช้งาน CDP